พรีเมียร์ลีกอังกฤษ ขึ้นชื่อเรื่องการแข่งขันฟุตบอลที่ดุเดือด เต็มไปด้วยความตื่นเต้นเร้าใจ ดึงดูดแฟนบอลจากทั่วโลก แต่รู้หรือไม่ว่า สนามกีฬาที่ใช้แข่งขันในพรีเมียร์ลีกนั้น ล้วนมีความสวยงามและน่าประทับใจไม่แพ้กัน แต่ละสนามมีเอกลักษณ์และเสน่ห์ที่แตกต่างกัน บทความนี้ขอพาคุณไปสัมผัสประสบการณ์ฟุตบอลที่เหนือระดับ ผ่าน 5 สนามกีฬาพรีเมียร์ลีกที่สวยงามและน่าประทับใจที่สุด เตรียมตัวให้พร้อมที่จะทึ่งกับสถาปัตยกรรมอันล้ำสมัย บรรยากาศสุดคึกคัก และเรื่องราวอันน่าจดจำ
สนามกีฬาเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงสถานที่แข่งขันฟุตบอล แต่เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของสโมสร เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และความทรงจำอันล้ำค่า แฟนบอลทุกคนใฝ่ฝันที่จะได้สัมผัสบรรยากาศการเชียร์ในสนามเหล่านี้สักครั้งในชีวิต เตรียมตัวให้พร้อมที่จะเปิดประตูสู่โลกแห่งฟุตบอลที่เต็มไปด้วยความมหัศจรรย์
วันนี้เราจะพาทุกท่านไปรู้จักกับ 5 สนามกีฬาพรีเมียร์ลีกที่สวยงาม และน่าประทับใจที่สุด แต่ละแห่งมีเอกลักษณ์โดดเด่น ทั้งสถาปัตยกรรม ประวัติศาสตร์ และบรรยากาศ รับรองว่าคุณจะต้องทึ่งแน่นอน!
1. โอลด์แทรฟฟอร์ด (Old Trafford Stadium) - สนามเหย้าของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
โอลด์แทรฟฟอร์ด (Old Trafford) หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ โรงละครแห่งความฝัน (Theatre of Dreams) เป็นสนามกีฬาฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในสหราชอาณาจักร ตั้งอยู่ที่เมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ และเป็นสนามเหย้าของสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด สโมสรฟุตบอลที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก โอลด์แทรฟฟอร์ด ไม่ใช่แค่สนามกีฬาธรรมดา แต่เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ ความทรงจำ และบรรยากาศที่น่าประทับใจ ดึงดูดแฟนบอลจากทั่วทุกมุมโลกให้มาสัมผัสประสบการณ์อันสุดพิเศษ
จุดเริ่มต้นของโอลด์แทรฟฟอร์ด
สนามกีฬาโอลด์แทรฟฟอร์ด ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1909 บนพื้นที่เดิมที่เคยเป็นสนามกีฬาคริกเก็ต การก่อสร้างสนามแห่งนี้ได้รับการออกแบบโดย อาร์ชิเทคต์ ชื่อ อาร์คิบัลด์ ลีช (Archibald Leitch) โดยใช้งบประมาณในการก่อสร้างประมาณ 100,000 ปอนด์
ในช่วงแรก สนามกีฬาโอลด์แทรฟฟอร์ด มีความจุเพียง 80,000 คน แต่หลังจากผ่านการปรับปรุงและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันสนามกีฬามีความจุสูงสุดถึง 74,141 คน กลายเป็นสนามฟุตบอลที่มีความจุมากที่สุดในสหราชอาณาจักร
โอลด์แทรฟฟอร์ดผ่านร้อนผ่านหนาวมายาวนาน
ตลอดระยะเวลา 100 กว่าปีที่ผ่านมา โอลด์แทรฟฟอร์ด ได้เป็นสักขีพยานของเหตุการณ์สำคัญๆ มากมาย ทั้งในด้านกีฬาและประวัติศาสตร์ เคยเป็นเจ้าภาพการแข่งขันฟุตบอลโลกปี ค.ศ.1966 ยูโร 1996 และรอบชิงชนะเลิศยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 2 ครั้งในปี ค.ศ.1999 และ 2008
โอลด์แทรฟฟอร์ด ไม่ได้เป็นเพียงสนามฟุตบอล แต่ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก มาสัมผัสกับบรรยากาศอันยิ่งใหญ่ และเรียนรู้ประวัติศาสตร์อันยาวนานของสโมสรแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
2. แอนฟิลด์ (Anfield Stadium) - สนามเหย้าของลิเวอร์พูล
แอนฟิลด์ มากกว่าสนามฟุตบอล แต่คือตำนานและสัญลักษณ์อันยิ่งใหญ่ของสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล ตั้งตระหง่านอยู่เคียงข้างเมืองลิเวอร์พูล ประเทศอังกฤษ สนามแห่งนี้ไม่ได้เป็นเพียงสถานที่สำหรับการแข่งขันฟุตบอล แต่ยังเป็นสถานที่ที่รวบรวมเรื่องราวความทรงจำ ความสำเร็จ และแรงศรัทธาของเหล่าเดอะค็อปแฟนพันธุ์แท้มาอย่างยาวนานกว่า 130 ปี
ย้อนกลับไปในปี 1884 สนามแอนฟิลด์ถูกสร้างขึ้นบนที่ดินติดกับสวนสาธารณะสแตนลีย์ ห่างจากใจกลางเมืองลิเวอร์พูลประมาณ 3 กิโลเมตร ในตอนแรกสนามแห่งนี้ถูกใช้เป็นสนามเหย้าของสโมสรฟุตบอลเอฟเวอร์ตัน แต่ด้วยปัญหาข้อพิพาทเรื่องค่าเช่า ทำให้เอฟเวอร์ตันย้ายไปยังสนามกูดิสันพาร์ก ส่งผลให้แอนฟิลด์กลายเป็นสนามร้างที่ไร้ผู้ใช้งาน
โอกาสทองตกมาอยู่ที่ จอห์น โฮลดิง นักธุรกิจชาวอังกฤษ เขาเข้ามาเทคโอเวอร์สนามแอนฟิลด์ และก่อตั้งสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูลขึ้นในปี 1892 นับตั้งแต่นั้นมาแอนฟิลด์ก็กลายเป็นบ้านหลังที่สองของเหล่าเดอะค็อป แฟนบอลผู้ทุ่มเทแรงกายแรงใจให้กับสโมสร
แอนฟิลด์ ในยุคแรกนั้น มีความจุเพียง 20,000 คน แต่ด้วยความนิยมที่เพิ่มมากขึ้น สโมสรจึงทำการขยายสนามอยู่เสมอ ในปี ค.ศ.1906 เดอะ ค็อป อัฒจันทร์ฝั่งตะวันตก ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อรองรับแฟนบอลที่เพิ่มจำนวนมากขึ้น เดอะ ค็อป กลายเป็นอัฒจันทร์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ด้วยบรรยากาศที่คึกคัก เสียงเชียร์ที่กึกก้อง และความมุ่งมั่นของแฟนบอล
แอนฟิลด์ผ่านร้อนผ่านหนาวมาอย่างยาวนาน ได้เห็นความสำเร็จและความพ่ายแพ้ของลิเวอร์พูล สนามแห่งนี้ถูกปรับปรุงและขยายความจุอยู่เสมอ เพื่อรองรับจำนวนแฟนบอลที่เพิ่มมากขึ้น ปัจจุบันแอนฟิลด์สามารถจุผู้ชมได้ถึง 54,074 คน
แอนฟิลด์ เป็นสักขีพยานของเหตุการณ์สำคัญมากมายในประวัติศาสตร์ของ ลิเวอร์พูล สโมสรคว้าแชมป์ลีกสูงสุดของอังกฤษ 19 สมัย แชมป์เอฟเอคัพ 8 สมัย แชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 6 สมัย และอีกมากมาย แอนฟิลด์ เคยเป็นเวทีของเกมการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่ เต็มไปด้วยดราม่า ความตื่นเต้น และความประทับใจ
แอนฟิลด์ไม่ได้โด่งดังแค่ในด้านความจุ แต่ยังขึ้นชื่อเรื่องบรรยากาศอันน่าทึ่ง โดยเฉพาะเสียงเพลง “You’ll Never Walk Alone” ที่แฟนบอลลิเวอร์พูลขับร้องพร้อมกัน กลายเป็นหนึ่งในเพลงประจำสโมสรที่ทรงพลังและสร้างความประทับใจให้กับผู้ชมทั่วโลก
3. เอติฮัด สเตเดี้ยม (Etihad Stadium) - สนามเหย้าของแมนเชสเตอร์ ซิตี้
เอติฮัด สเตเดี้ยม หรือที่รู้จักกันในชื่อ สนามกีฬาซิตีออฟแมนเชสเตอร์ ตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางเมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ เปรียบเสมือนสัญลักษณ์อันยิ่งใหญ่ของสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ซิตี้ สนามกีฬาแห่งนี้ไม่ใช่แค่สถานที่สำหรับการแข่งขันฟุตบอล แต่ยังเป็นสถานที่สร้างตำนาน บันทึกประวัติศาสตร์ และปลุกเร้าอารมณ์ความรู้สึกของเหล่าแฟนบอล “เรือใบสีฟ้า” มานานกว่าสองทศวรรษ
ก่อนการก่อสร้างเอติฮัด สเตเดี้ยม สโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ใช้สนามเหย้ามาแล้วสองแห่ง เริ่มต้นที่ สนามเมนโรด ตั้งแต่ปี ค.ศ.1923 จนถึงปี ค.ศ.2003 สนามแห่งนี้มีความจุ 38,000 ที่นั่ง แต่ด้วยความจุที่จำกัด สโมสรจึงตัดสินใจย้ายไปยัง สนามกีฬาเมนโรด
ในปี ค.ศ.1999 สโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ตัดสินใจซื้อพื้นที่บริเวณ Eastlands เพื่อก่อสร้างสนามกีฬาแห่งใหม่ ใช้เวลาเพียง 2 ปี สนามกีฬาเอติฮัด สเตเดี้ยม ก็สร้างเสร็จสมบูรณ์และเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี ค.ศ.2003 โดยใช้ชื่อว่า City of Manchester Stadium
ในปี ค.ศ. 2003 สโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้เซ็นสัญญากับ สายการบินเอทิฮัด (Etihad Airways) สายการบินแห่งชาติของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ให้เป็นผู้สนับสนุนหลักของสโมสร ส่งผลให้ชื่อสนามกีฬาเปลี่ยนเป็น Etihad Stadium นับตั้งแต่นั้นมา
เอติฮัด สเตเดี้ยม ออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดัง Wilsons Architects โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบโมเดิร์น ผสมผสานความเรียบง่ายและทันสมัย ตัวอาคารสีฟ้าสดใส สื่อถึงสีประจำสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ กลายเป็นแลนด์มาร์คสำคัญของเมืองแมนเชสเตอร์
เอติฮัด สเตเดี้ยม มีความจุ 55,097 ที่นั่ง จัดว่าเป็นหนึ่งในสนามกีฬาที่มีความจุมากที่สุดในพรีเมียร์ลีก ภายในสนามประกอบด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน รองรับการแข่งขันฟุตบอลระดับโลก ห้องแต่งตัวนักกีฬา ห้องแถลงข่าว ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก และพิพิธภัณฑ์สโมสร
นอกจากความงดงามแล้ว เอติฮัด สเตเดี้ยม ยังเต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน มีห้องแต่งตัวนักกีฬาที่ทันสมัย ห้องประชุม ร้านอาหาร บาร์ และร้านขายของที่ระลึก สนามกีฬายังมีเทคโนโลยีล้ำสมัย รองรับการถ่ายทอดสด ระบบเสียง และแสงสีที่สมบูรณ์แบบ มอบประสบการณ์การชมฟุตบอลที่เหนือระดับ
4. เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม (Emirates Stadium) - สนามเหย้าของอาร์เซนอล
เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม (Emirates Stadium) หรือที่รู้จักกันในชื่อ ดิ เอมิเรตส์ (The Emirates) เป็นสนามฟุตบอลที่ตั้งอยู่ในย่านฮอลโลเวย์ (Holloway) ลอนดอนเหนือ ประเทศอังกฤษ ทำหน้าที่เป็นสนามเหย้าของสโมสรฟุตบอลอาร์เซนอล (Arsenal Football Club) นับตั้งแต่เปิดใช้งานครั้งแรกในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2006
สนามแห่งนี้ได้รับการออกแบบโดย Populous สถาปนิกบริษัทเดียวกับที่ออกแบบสนามกีฬาโอลิมปิก 2012 และสนามกีฬาท็อตแนมฮ็อทสเปอร์ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม มีความจุ 60,355 ที่นั่ง ซึ่งถือว่าเป็นสนามฟุตบอลที่ใหญ่เป็นอันดับสองของพรีเมียร์ลีก รองจากสนามโอลด์แทรฟฟอร์ด และเป็นสนามกีฬาที่ใหญ่เป็นอันดับสามในลอนดอน รองจากสนามเวมบลีย์และสนามทวิกเคนแฮม
การก่อสร้างเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม เริ่มต้นขึ้นในปี ค.ศ. 2004 โดยใช้เวลา 2 ปีในการก่อสร้าง สนามแห่งนี้มีมูลค่าการก่อสร้างรวมอยู่ที่ 430 ล้านปอนด์ โดยได้รับเงินทุนสนับสนุนจากสายการบินเอมิเรตส์ ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนหลักของสโมสรอาร์เซนอล
สนามแห่งนี้เดิมทีมีชื่อเรียกว่า แอชเบอร์ตัน โกรฟ (Ashburton Grove) ตามชื่อของพื้นที่ที่ตั้งของสนาม แต่หลังจากได้รับเงินทุนสนับสนุนจากสายการบินเอมิเรตส์ ทางสโมสรจึงได้เปลี่ยนชื่อสนามเป็น เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม
เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม เป็นสนามฟุตบอลที่มีสถาปัตยกรรมที่ทันสมัย โดดเด่นด้วยหลังคาโค้งสีขาว ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากปีกนก สนามแห่งนี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน รวมไปถึงห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า ห้องสื่อมวลชน ร้านอาหาร และร้านขายของที่ระลึก
เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม มีความจุ 60,355 ที่นั่ง กลายเป็นสนามฟุตบอลที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของพรีเมียร์ลีก รองจากโอลด์ แทรฟฟอร์ด (Old Trafford) สนามเหย้าของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (Manchester United)
นับตั้งแต่เปิดใช้งานในปี 2006 เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ได้เป็นสักขีพยานของเหตุการณ์สำคัญๆ มากมายของสโมสรอาร์เซนอล รวมถึงชัยชนะในถ้วยแชมเปียนส์ลีก (UEFA Champions League) ถ้วยเอฟเอคัพ (FA Cup) และถ้วยลีกคัพ (EFL Cup)
5. ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ สเตเดี้ยม (Tottenham Hotspur Stadium)
ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ สเตเดี้ยม (Tottenham Hotspur Stadium) ตั้งตระหง่านอยู่ทางตอนเหนือของกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะสนามเหย้าของสโมสรฟุตบอลท็อตแนมฮอตสเปอร์ สโมสรชั้นนำในพรีเมียร์ลีก สนามกีฬาแห่งนี้ไม่เพียงแต่โดดเด่นด้วยความยิ่งใหญ่ อลังการ แต่ยังเปี่ยมไปด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย กลายเป็นสัญลักษณ์อันภาคภูมิใจของสโมสร ดึงดูดแฟนบอลจากทั่วทุกมุมโลก มาสัมผัสประสบการณ์การเชียร์ที่ไม่เหมือนใคร
ก่อนการก่อสร้างท็อตแนม ฮอตสเปอร์ สเตเดี้ยม ท็อตแนมฮอตสเปอร์ ใช้สนามเหย้ามาอย่างยาวนานนับกว่า 118 ปี นั่นคือ สนามไวท์ฮาร์ตเลน (White Hart Lane) สนามกีฬาเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวและความทรงจำ ทว่าด้วยกาลเวลา ไวท์ฮาร์ตเลนเริ่มเสื่อมโทรม ไม่สามารถรองรับความต้องการของสโมสรที่เติบโตขึ้น จึงถึงเวลาแล้วที่ท็อตแนมฮอตสเปอร์จะก้าวสู่ยุคใหม่ ด้วยการสร้างสนามกีฬาแห่งอนาคต
ในปี 2009 สโมสรท็อตแนมฮอตสเปอร์ ประกาศแผนการก่อสร้างสนามกีฬาแห่งใหม่ บนพื้นที่เดิมของไวท์ฮาร์ตเลน ท่ามกลางความตื่นเต้นและคาดหวังจากแฟนบอล โครงการนี้ได้รับการออกแบบโดย Populous บริษัทสถาปัตยกรรมชั้นนำของโลก มุ่งเน้นไปที่การสร้างสนามกีฬาที่ทันสมัย ตอบสนองความต้องการของแฟนบอลยุคใหม่ และเป็นสัญลักษณ์อันโดดเด่นของสโมสร
ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ สเตเดี้ยม เปี่ยมไปด้วยนวัตกรรมการออกแบบที่ล้ำสมัย โดดเด่นด้วยหลังคาทรงกลม ที่สามารถเปิดปิดได้อย่างสะดวก เผยให้เห็นท้องฟ้าเบื้องบน สนามกีฬาแห่งนี้ยังมีอัฒจันทร์ที่ใกล้ชิดกับสนามแข่งขันมากที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป ช่วยให้แฟนบอลสัมผัสบรรยากาศการแข่งขันได้อย่างเต็มอิ่ม
ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ สเตเดี้ยม เต็มไปด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย ไม่ว่าจะเป็นระบบแสงสว่างแบบ LED ที่สามารถเปลี่ยนสีได้หลากหลาย จอภาพขนาดยักษ์ ระบบเสียง surround sound Wi-Fi ความเร็วสูง และระบบรักษาความปลอดภัยที่ทันสมัย เพื่อมอบประสบการณ์การชมฟุตบอลที่เหนือระดับ
ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ สเตเดี้ยม ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อฟุตบอลเพียงอย่างเดียว แต่ยังรองรับการใช้งานหลากหลายรูปแบบ ด้วยความจุ 62,850 ที่นั่ง สนามแห่งนี้สามารถจัดแข่งขันกีฬาประเภทอื่นๆ เช่น อเมริกันฟุตบอล รักบี้ คอนเสิร์ต งานอีเวนต์ต่างๆ รวมไปถึงกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย
ติดตามข่าวสาร พรีเมียร์ลีก อัพเดทใหม่ ได้ที่นี่!
แฟนบอลพรีเมียร์ลีกทุกท่านคงทราบดีว่า ฤดูกาล 2024/25 กำลังใกล้เข้ามาแล้ว ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหว โปรแกรมการแข่งขัน ผลการแข่งขัน สถิติต่างๆ ได้ตามช่องทางต่อไปนี้
- เว็บไซต์ทางการ – https://www.premierleague.com/
- เว็บไซต์ข่าวกีฬาชั้นนำ เช่น ไทยรัฐสปอร์ต สยามสปอร์ต ข่าวสด มติชน เว็บไซต์เหล่านี้ นำเสนอข่าวสารในรูปแบบบทความ วิดีโอ และยังมีบทวิเคราะห์จากกูรูฟุตบอลชื่อดังอีกด้วย
- สื่อโซเชียลมีเดีย สโมสรฟุตบอลต่างๆ ในพรีเมียร์ลีก ล้วนมีช่องทางการติดตามข่าวสารผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย เช่น Facebook, Twitter, Instagram, YouTube
นอกจากนี้เว็บไซต์เรายังรวบรวมทุกบทความ ข่าวสารอัพเดทใหม่ไว้ให้คุณที่เดียว คลิ๊กที่นี่