บุนเดิสลีกา เตะกี่นัด โปรแกรมตลอดฤดูกาล พร้อมจัดอันดับตลาดพนันทำกำไร

บุนเดิสลีกา (Bundesliga) เป็นลีกฟุตบอลสูงสุดของประเทศเยอรมนีที่มีความน่าสนใจและเป็นที่นิยมในหมู่แฟนบอลทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นทีมยักษ์ใหญ่อย่าง บาเยิร์น มิวนิค, โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ หรือ แอร์เบ ไลป์ซิก ซึ่งลีกนี้มีการจัดการแข่งขันที่ไม่เหมือนใครและเต็มไปด้วยความเข้มข้น สำหรับแฟนบอลชาวไทยที่สนใจในบุนเดิสลีกาและการเดิมพัน นี่คือข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับจำนวนการแข่งขัน โปรแกรมตลอดฤดูกาล และการจัดอันดับตลาดพนันที่น่าสนใจที่สุด

บุนเดิสลีกา เตะกี่นัด?

บุนเดิสลีกา มีรูปแบบการแข่งขันที่ประกอบด้วย 18 ทีม แต่ละทีมจะต้องแข่งขันกันในระบบพบกันหมด (Round-Robin) ทั้งหมด 34 นัดในหนึ่งฤดูกาล แบ่งเป็นการเล่นในบ้าน 17 นัด และการเล่นนอกบ้าน 17 นัด ซึ่งหมายความว่าทุกทีมจะได้เจอกันทั้งหมด 2 ครั้งในฤดูกาลเดียว ทำให้ทุกแมตช์มีความสำคัญอย่างมากต่อการจัดอันดับในตาราง

ความเข้มข้นของบุนเดิสลีกาเกิดจากจำนวนแมตช์ที่ไม่มากเกินไป ทำให้ทุกนัดมีผลต่อการลุ้นแชมป์และการตกชั้น ทีมที่จบฤดูกาลด้วยคะแนนสูงสุดจะได้ครองแชมป์ ขณะที่ทีมที่จบในอันดับท้าย ๆ จะต้องลงไปแข่งขันในลีกา 2 (2. Bundesliga) ขณะเดียวกันทีมที่จบในอันดับที่ 16 จะต้องเล่นเพลย์ออฟกับทีมจากลีกา 2 เพื่อรักษาตำแหน่งในท็อปลีก

โปรแกรมแข่ง 2024/25 คีย์เดท

เริ่มซีซั่น บุนเดิสลีกา

• เปิดฤดูกาล: วันศุกร์ที่ 16 สิงหาคม 2024
  นัดแรกของฤดูกาล 2024/25 จะเริ่มขึ้น โดยทีมแชมป์เก่าอย่าง บาเยิร์น มิวนิค มักจะเป็นผู้เปิดสนาม พบกับทีมที่น่าสนใจ

ช่วงพักเบรกหน้าหนาว

• พักเบรกหน้าหนาว: 22 ธันวาคม 2024 – 12 มกราคม 2025
  บุนเดิสลีกามีการพักเบรกในช่วงหน้าหนาวซึ่งยาวประมาณ 3 สัปดาห์ เพื่อให้นักเตะได้พักฟื้นและเตรียมตัวสำหรับช่วงหลังของฤดูกาล

ช่วงกลางฤดูกาล

• นัดสุดท้ายของครึ่งฤดูกาลแรก: 21 ธันวาคม 2024
  ก่อนเข้าสู่ช่วงพักเบรกหน้าหนาวจะมีการจัดการแข่งขันนัดสุดท้ายของครึ่งฤดูกาลแรก

บุนเดิสลีกา ท้ายฤดูกาล

• เริ่มครึ่งฤดูกาลหลัง: 13 มกราคม 2025
  หลังจากพักเบรกหน้าหนาว ทีมต่าง ๆ จะกลับมาแข่งขันกันต่อในครึ่งฤดูกาลหลัง

• นัดปิดฤดูกาล: วันเสาร์ที่ 17 พฤษภาคม 2025
  การแข่งขันในฤดูกาล 2024/25 จะสิ้นสุดลง โดยนัดสุดท้ายของฤดูกาลนี้จะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 17 พฤษภาคม 2025 ซึ่งอาจเป็นวันที่มีการตัดสินแชมป์หรือทีมที่ตกชั้น

• เพลย์ออฟตกชั้น: ระหว่าง 21 – 26 พฤษภาคม 2025
  สำหรับทีมที่จบอันดับ 16 ในตารางบุนเดิสลีกา จะต้องแข่งเพลย์ออฟกับทีมอันดับ 3 จากลีกา 2 เพื่อรักษาสิทธิ์ในบุนเดิสลีกา

การติดตามวันที่สำคัญเหล่านี้จะช่วยให้คุณไม่พลาดทุกจังหวะสำคัญของบุนเดิสลีกาฤดูกาล 2024/25 ไม่ว่าจะเป็นการลุ้นแชมป์ การต่อสู้เพื่อหนีตกชั้น หรือแม้กระทั่งช่วงพักเบรกที่ทีมอาจใช้ในการปรับกลยุทธ์เพื่อเข้าสู่ครึ่งหลังของฤดูกาล

จัดอันดับ 5 ตลาดพนันทำกำไรดีที่สุด บุนเดิสลีกา

การเลือกตลาดพนันที่ถูกต้องในบุนเดิสลีกาจำเป็นต้องอาศัยข้อมูลและสถิติที่แม่นยำ ตลาดที่กำลังจะได้เห็นต่อไปนี้ มีโอกาสทำกำไรจาก JBO ได้สูงหากนักเดิมพันทำการวิเคราะห์และติดตามสถานการณ์ของทีมและผู้เล่นอย่างใกล้ชิด

1. เดิมพันผลแพ้-ชนะ (1X2)

ตลาดเดิมพันผลแพ้-ชนะ (1X2) เป็นตลาดที่นิยมที่สุดในบุนเดิสลีกา โดยเฉพาะเมื่อเดิมพันทีมอย่าง บาเยิร์น มิวนิค หรือ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ สถิติที่น่าสนใจคือ บาเยิร์น มิวนิค มีอัตราการชนะในบ้านสูงถึง 85% ในฤดูกาลที่ผ่านมา ทำให้การเดิมพันในตลาดนี้มีโอกาสสำเร็จสูง โดยเฉพาะการวางเดิมพันในแมตช์ที่ทีมใหญ่เจอกับทีมที่ฟอร์มอ่อนกว่า

2. เดิมพันสูง/ต่ำ (Over/Under)

บุนเดิสลีกาเป็นลีกที่มีการทำประตูเฉลี่ยต่อแมตช์สูงมาก โดยเฉลี่ยแล้วมีการทำประตูรวมต่อเกมมากกว่า 3 ลูกในหลายฤดูกาลที่ผ่านมา ฤดูกาล 2023/24 มีค่าเฉลี่ยการทำประตูอยู่ที่ 3.12 ประตูต่อเกม ตลาดสูง/ต่ำจึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการวางเดิมพันที่สูงกว่า 2.5 ประตู เนื่องจากแนวรุกในลีกนี้มักจะดุดันและมีความสามารถในการทำประตูสูง

3. ผลแพ้ชนะ แต้มต่อรอง (Handicap)

การเดิมพันแบบแฮนดิแคปเป็นที่นิยมสำหรับนักเดิมพันที่ต้องการเพิ่มความท้าทายและผลตอบแทน ตลาดแฮนดิแคปจะช่วยปรับสมดุลระหว่างทีมที่แข็งแกร่งและทีมที่อ่อนกว่า ยกตัวอย่างเช่น บาเยิร์น มิวนิค มักจะมีอัตราต่อรองแบบแฮนดิแคปอยู่ที่ -1.5 หรือ -2.0 ซึ่งหมายความว่าพวกเขาต้องชนะด้วยสกอร์ที่ห่างกันมากกว่าสองประตูถึงจะชนะเดิมพัน ซึ่งในฤดูกาลที่ผ่านมา พวกเขาทำได้สำเร็จในมากกว่า 60% ของการแข่งขัน ทำให้ตลาดนี้มีโอกาสทำกำไรได้ดี

4. เดิมพันผู้ทำประตู (Goalscorer)

บุนเดิสลีกามีผู้เล่นระดับโลกมากมายที่สามารถทำประตูได้อย่างต่อเนื่อง เช่น โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ซึ่งเคยเล่นให้กับบาเยิร์น มิวนิคและมีสถิติการทำประตูสูงสุดในหลายฤดูกาล สำหรับนักเดิมพัน การวางเดิมพันในผู้เล่นที่มีความสามารถในการทำประตูสูงจะเพิ่มโอกาสในการชนะ ยกตัวอย่างเช่น เออร์ลิง ฮาแลนด์ (เมื่อยังเล่นในบุนเดิสลีกา) เคยมีอัตราการทำประตูเฉลี่ย 0.9 ประตูต่อเกม ทำให้การวางเดิมพันว่าเขาจะทำประตูในแต่ละนัดเป็นตัวเลือกที่ดี

5. เดิมพันทีมตกชั้น

ตลาดเดิมพันทีมตกชั้นในบุนเดิสลีกาเป็นอีกหนึ่งตลาดที่มีความเสี่ยงแต่ก็คุ้มค่า ทีมที่มีฟอร์มอ่อนและมีปัญหาทางการเงินมักจะมีโอกาสตกชั้นสูง ยกตัวอย่างเช่นในฤดูกาลที่ผ่านมา ทีมอย่าง ชาลเก้ 04 และ แฮร์ธ่า เบอร์ลิน มีฟอร์มการเล่นที่แย่มากและท้ายที่สุดต้องตกชั้น การวิเคราะห์ฟอร์มของทีมและปัจจัยต่างๆ เช่น การบาดเจ็บของผู้เล่นหลัก หรือการเปลี่ยนแปลงผู้จัดการทีม สามารถช่วยให้นักเดิมพันตัดสินใจได้ว่าทีมไหนมีโอกาสตกชั้นมากที่สุด