พรีเมียร์ลีกอังกฤษ ถือเป็นลีกฟุตบอลที่ได้รับความนิยมมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก เต็มไปด้วยสุดยอดนักเตะมากฝีมือที่สร้างตำนานบทใหม่ให้กับวงการฟุตบอล แต่มีเพียงไม่กี่คนที่สามารถก้าวขึ้นสู่ตำแหน่ง “สุดยอดนักเตะ” ของพรีเมียร์ลีก
บทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักกับ 5 ตำนานนักเตะในพรีเมียร์ลีก ผู้ซึ่งฝากผลงานอันล้ำค่าไว้บนผืนหญ้าสีเขียว และกลายเป็นแรงบันดาลใจให้นักฟุตบอลรุ่นต่อๆ ไป
1. อลัน เชียเรอร์ ราชาแห่งนักล่าประตู ผู้ไร้เทียมทาน
อลัน เชียเรอร์ (Alan Shearer) อดีตกองหน้าชาวอังกฤษผู้โด่งดัง เกิดเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม ค.ศ.1970 เป็นที่รู้จักในฐานะตำนานนักฟุตบอลและเจ้าของสถิติการยิงประตูสูงสุดตลอดกาลของพรีเมียร์ลีก ด้วยจำนวน 260 ประตู เชียเรอร์ เริ่มต้นอาชีพนักฟุตบอลกับสโมสรเซาแธมป์ตันในปี ค.ศ.1988 ก่อนจะย้ายไปร่วมทีมแบล็กเบิร์น โรเวอส์ ในปี ค.ศ.1992
เชียเรอร์ ประสบความสำเร็จอย่างมากกับแบล็กเบิร์น โรเวอส์ โดยคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาล 1994/95 ร่วมกับทีม เขาได้รับรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีของสมาคมผู้สื่อมวลชนฟุตบอล (Football Writers’ Association Player of the Year) ในปี ค.ศ. 1994 และรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมของสมาคมนักฟุตบอลอาชีพ (PFA Players’ Player of the Year) ในปี ค.ศ. 1995
นอกจากนี้ เขายังเคยติด 1 ใน 3 ของรางวัล บัลลังดอร์ และรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมของโลกจากฟีฟ่า ประจำปี 1996 รวมถึงได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในนักเตะที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลกโดย เปเล่ ในปี 2004 ในฐานะนักเตะทีมชาติอังกฤษ เชียเรอร์ ลงสนามไปทั้งสิ้น 63 นัด และยิงได้ 30 ประตู แม้จะประสบความสำเร็จมากมายในระดับสโมสร แต่เขาก็ไม่สามารถพาทีมชาติอังกฤษคว้าแชมป์ใดๆได้เลย
ปัจจุบัน เชียเรอร์ ผันตัวเองไปสู่การเป็นนักวิเคราะห์ฟุตบอล ซึ่งถือว่าเป็นผู้ทรงคุณวุฒิคนหนึ่ง ความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์อันโชกโชนในวงการลูกหนัง ทำให้บทวิเคราะห์ของเขามีน้ำหนัก น่าเชื่อถือ และได้รับความสนใจจากแฟนบอลทั่วโลก
2. เธียร์รี อองรี ราชาแห่งพรีเมียร์ลีก
เธียร์รี อองรี (Thierry Henry) ผู้เล่นผู้เปี่ยมไปด้วยทักษะอันเฉียบคม ฝีเท้าการยิงประตูที่เหนือชั้น และความเป็นผู้นำที่ไร้เทียมทาน เธียร์รี อองรี หรือที่รู้จักกันในนาม “ทีเอช14” ยืนตำแหน่งหนึ่งในหัวใจแฟนบอลอาร์เซนอลและเหล่าคอบอลทั่วโลกมาอย่างยาวนาน
อองรี เกิดในย่านเลซูว์ลิส ชานเมืองกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส พรสวรรค์ด้านฟุตบอลของเขาถูกค้นพบตั้งแต่เด็ก เขาเริ่มต้นการค้าแข้งกับสโมสรโมนาโก ก่อนจะแจ้งเกิดอย่างเต็มรูปแบบกับอาร์เซนอล สโมสรในพรีเมียร์ลีก
อองรี ย้ายมาอยู่กับอาร์เซนอลในปี 1999 เขากลายเป็นหัวใจสำคัญในแนวรุกของทีม อองรีสร้างความประทับใจให้กับแฟนบอลด้วยทักษะการเลี้ยงบอล การจบสกอร์ที่เฉียบคม และความสามารถในการสร้างโอกาสให้เพื่อนร่วมทีม
อองรี คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกกับอาร์เซนอลถึง 2 สมัย (2001-02, 2003-04) รวมไปถึงแชมป์เอฟเอคัพ 3 สมัย (2002, 2003, 2005) และรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีของพรีเมียร์ลีก 4 สมัย (2002-03, 2003-04, 2004-05, 2005-06)
อองรี กลายเป็นดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของอาร์เซนอลด้วยจำนวน 175 ประตู สถิตินี้ยังคงเป็นสถิติที่ยากจะเทียบทาจนถึงปัจจุบัน
เขาไม่ได้เป็นเพียงกองหน้าที่เก่งกาจเท่านั้น เขายังเป็นนักเตะที่ทุ่มเท เล่นเพื่อทีม และเป็นที่รักของแฟนบอล สไตล์การเล่นที่เร้าใจ ท่าทางการดีใจอันเป็นเอกลักษณ์ ทำให้เขากลายเป็นกองหน้าในฝันของแฟนบอลทั่วโลก
อองรี วางมือจากฟุตบอลอาชีพในปี 2012 เขาได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล และเป็นตำนานของพรีเมียร์ลีกที่ไม่มีวันเลือนหาย
อองรี ยังคงมีบทบาทสำคัญในโลกฟุตบอล เขาเป็นผู้ช่วยผู้ฝึกสอนทีมชาติเบลเยียม และเป็นนักวิเคราะห์ฟุตบอลให้กับสื่อต่างๆ
3. เดวิด เบ็คแฮม ไอคอนลูกหนังผู้โด่งดัง
เดวิด เบ็คแฮม (David Beckham) คือหนึ่งในนักฟุตบอลที่โด่งดังที่สุดในประวัติศาสตร์ เขาเป็นที่รู้จักในฐานะตำนานของสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และทีมชาติอังกฤษ เบ็คแฮมมีฝีเท้าการเล่นที่ยอดเยี่ยม ทักษะการยิงฟรีคิกที่เฉียบคม และบุคลิกลักษณะที่ดึงดูดใจผู้คนทั่วโลก
เบ็คแฮม เกิดเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม ค.ศ.1975 ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เขาเริ่มเล่นฟุตบอลตั้งแต่อายุยังน้อย และแสดงพรสวรรค์ที่โดดเด่นตั้งแต่เด็ก เบ็คแฮมเซ็นสัญญากับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในปี 1991 และก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ในปี 1992
เบ็คแฮมประสบความสำเร็จอย่างมากมายกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เขาคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 6 สมัย เอฟเอคัพ 2 สมัย ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 1 สมัย และอินเตอร์คอนติเนนตัลคัพ 1 สมัย เบ็คแฮมยังได้รับรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีของพรีเมียร์ลีก 2 สมัย และรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของยูฟ่า 1 สมัย
เบ็คแฮมเป็นที่รู้จักในฐานะหนึ่งในนักเตะที่มีทักษะการยิงฟรีคิกที่ดีที่สุดในโลก เขาสามารถยิงลูกฟรีคิกได้อย่างแม่นยำและทรงพลัง ประตูฟรีคิกของเบ็คแฮมกลายเป็นตำนาน และยังคงถูกพูดถึงจนถึงวันนี้
เบ็คแฮมลงเล่นให้กับทีมชาติอังกฤษ 115 นัด ยิงประตูได้ 59 ประตู เขาเป็นกัปตันทีมชาติอังกฤษในช่วงปี 2000-2006 เบ็คแฮมพาทีมชาติอังกฤษเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลโลกปี 2006
เบ็คแฮมย้ายไปเล่นให้กับเรอัล มาดริด ในปี 2003 เขาคว้าแชมป์ลาลีกา 1 สมัยกับเรอัล มาดริด หลังจากนั้น เบ็คแฮมย้ายไปเล่นให้กับแอลเอ แกแล็กซี่ ในเมเจอร์ลีกซอคเกอร์ และเอซี มิลาน
เบ็คแฮม เลิกเล่นฟุตบอลอาชีพในปี 2013 ปัจจุบัน เขาเป็นเจ้าของทีมอินเตอร์ ไมอามี ในเมเจอร์ลีกซอคเกอร์ เบ็คแฮมยังเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับแบรนด์ต่างๆ มากมาย และเป็นที่รู้จักในฐานะนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ
เดวิด เบ็คแฮม เป็นหนึ่งในนักฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ เขาเป็นแรงบันดาลใจให้กับเด็กๆ ทั่วโลกที่ใฝ่ฝันอยากเป็นนักฟุตบอล เบ็คแฮมยังคงเป็นที่รักและชื่นชมจากแฟนบอลทั่วโลก
4. ตำนานบทใหม่ของ คริสเตียโน โรนัลโด้
คริสเตียโน โรนัลโด้ (Cristiano Ronaldo) ดาวยิงจอมถล่มประตูระดับตำนาน หนึ่งในนักฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล เส้นทางอาชีพของเขานั้นเต็มไปด้วยความสำเร็จและรางวัลมากมาย โดยเฉพาะช่วงเวลาที่เขาค้าแข้งในพรีเมียร์ลีกกับสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
โรนัลโด้ ย้ายมาอยู่กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในปี 2003 ด้วยวัยเพียง 18 ปี พรสวรรค์อันน่าทึ่งของเขา ดึงดูดความสนใจจากแฟนบอลทั่วโลกอย่างรวดเร็ว เขาโชว์ฟอร์มได้อย่างน่าประทับใจ ด้วยความเร็ว ทักษะการเลี้ยงบอล และความเฉียบคมในการจบสกอร์ กลายเป็นหนึ่งในดาวรุ่งพุ่งแรงที่น่าจับตามองมากที่สุดในยุคนั้น
ตัวอย่างที่ชัดเจนของพรสวรรค์อันน่าทึ่งของโรนัลโด้ คือผลงานในเกมนัดเปิดตัวกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เขาโชว์ทักษะการเลี้ยงบอลที่ลื่นไหล ผ่านบอลได้อย่างแม่นยำ และสร้างโอกาสให้เพื่อนร่วมทีมทำประตูได้หลายครั้ง แม้จะไม่ได้ลงเล่นจนครบ 90 นาที แต่ฟอร์มการเล่นของเขาก็เพียงพอที่จะสร้างความประทับใจให้กับแฟนบอลและกุนซือเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ได้อย่างมาก
โรนัลโด้ ใช้เวลา 6 ปีในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด เขาคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกกับสโมสรถึง 3 สมัย (2006-07, 2007-08, 2008-09) รวมไปถึงรางวัลแชมป์เอฟเอคัพ 1 สมัย (2003-04) ลีกคัพ 2 สมัย (2005-06, 2008-09) และคอมมูนิตี้ ชิลด์ 1 สมัย (2007)
นอกจากผลงานกับสโมสรแล้ว โรนัลโด้ ยังคว้ารางวัลส่วนตัวมากมายในช่วงเวลาที่เขาค้าแข้งในพรีเมียร์ลีก เขาได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของพรีเมียร์ลีก 2 ครั้ง (2007, 2008) รางวัลรองชนะเลิศรางวัลบัลลงดอร์ 2 ครั้ง (2007, 2008) และรางวัลรองชนะเลิศรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของฟีฟ่า 1 ครั้ง (2008)
ผลงานอันโดดเด่นของโรนัลโด้ ทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในนักฟุตบอลที่โด่งดังและได้รับการยกย่องมากที่สุดในโลก เขาปรากฏตัวบนหน้าปกนิตยสารและสื่อต่างๆ
แม้ว่าโรนัลโด้จะค้าแข้งในพรีเมียร์ลีกเพียง 6 ปี แต่เขาก็สร้างตำนานบทใหม่ให้กับลีกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งนี้ ผลงานอันน่าทึ่งของเขา กลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักฟุตบอลรุ่นต่อๆไป และยังคงอยู่ในความทรงจำ
ของแฟนบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตลอดไป
5. แฟรงค์ แลมพาร์ด "ซูเปอร์แฟรงค์" ราชาแห่งกองกลาง
แฟรงค์ แลมพาร์ด (Frank Lampard) อดีตกองกลางระดับตำนานของสโมสรเชลซี และทีมชาติอังกฤษ เปรียบเสมือนขุนพลผู้ทุ่มเท แข็งแกร่ง และมากด้วยวิสัยทัศน์ ฝีเท้าการเล่นอันเฉียบคม การจบสกอร์ที่เฉียบขาด รวมไปถึงความเป็นผู้นำที่ยอดเยี่ยม ทำให้เขาได้รับฉายาว่า “ซูเปอร์แฟรงค์” และกลายเป็นหนึ่งในนักเตะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก
แลมพาร์ด เริ่มต้นอาชีพนักฟุตบอลกับสโมสรเวสต์แฮม ยูไนเต็ด สโมสรบ้านเกิดของเขา ก่อนที่จะย้ายไปร่วมทีมเชลซีในปี 2001 เขาประสบความสำเร็จอย่างมากมายกับสโมสรแห่งนี้ คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 3 สมัย แชมป์เอฟเอคัพ 4 สมัย แชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 1 สมัย และรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีของพรีเมียร์ลีก 2 สมัย
แลมพาร์ด ขึ้นชื่อเรื่องการยิงประตูที่เฉียบคม เขาทำประตูให้กับเชลซีไปมากกว่า 200 ประตู กลายเป็นกองกลางที่ยิงประตูได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก นอกจากนี้ เขายังมีวิสัยทัศน์ในการเล่นที่ยอดเยี่ยม สามารถจ่ายบอลแม่นยำ สร้างโอกาสให้เพื่อนร่วมทีมทำประตูได้อยู่เสมอ และยังเป็นผู้นำที่ดียอดเยี่ยม คอยดึงดันและกระตุ้นเพื่อนร่วมทีมให้เล่นอย่างเต็มที่
แลมพาร์ด ลงเล่นให้กับทีมชาติอังกฤษไป 106 นัด ยิงประตูได้ 30 ประตู เขาเป็นส่วนหนึ่งของทีมชาติอังกฤษชุดที่ได้อันดับ 4 ฟุตบอลโลก 2006 และรองแชมป์ยูโร 2004
หลังจากแขวนสตั๊ด แลมพาร์ด ผันตัวมาเป็นผู้จัดการทีม เขาเคยคุมทีมดาร์บี้ เคาน์ตี้ และเชลซี สโมสรเก่าของเขา แม้จะยังไม่ประสบความสำเร็จในระดับสูง แต่แลมพาร์ด ก็ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้จัดการทีมที่มีความสามารถ และมีอนาคตสดใส
ติดตามข่าวสาร พรีเมียร์ลีก อัพเดทใหม่ ได้ที่นี่!
แฟนบอลพรีเมียร์ลีกทุกท่านคงทราบดีว่า ฤดูกาล 2024/25 กำลังใกล้เข้ามาแล้ว ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหว โปรแกรมการแข่งขัน ผลการแข่งขัน สถิติต่างๆ ได้ตามช่องทางต่อไปนี้
- เว็บไซต์ทางการ – https://www.premierleague.com/
- เว็บไซต์ข่าวกีฬาชั้นนำ เช่น ไทยรัฐสปอร์ต สยามสปอร์ต ข่าวสด มติชน เว็บไซต์เหล่านี้ นำเสนอข่าวสารในรูปแบบบทความ วิดีโอ และยังมีบทวิเคราะห์จากกูรูฟุตบอลชื่อดังอีกด้วย
- สื่อโซเชียลมีเดีย สโมสรฟุตบอลต่างๆ ในพรีเมียร์ลีก ล้วนมีช่องทางการติดตามข่าวสารผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย เช่น Facebook, Twitter, Instagram, YouTube
นอกจากนี้เว็บไซต์เรายังรวบรวมทุกบทความ ข่าวสารอัพเดทใหม่ไว้ให้คุณที่เดียว คลิ๊กที่นี่