ลำดับของ พรีเมียร์ลีก สำคัญยังไง สำรวจหลายแง่มุม ตั้งแต่ความถี่ในการเคลื่อนไหวของตารางคะแนน และช่องทางการตรวจสอบ ไปจนถึงเหตุการณ์ที่ต้องบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ของวงการฟุตบอล นอกจากนี้เรายังจะเจาะลึกถึง ท็อปทีมที่ติดท็อปโฟร์มากที่สุด ซึ่งเป็นทีมที่ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องในลีกสูงสุดของอังกฤษ และมีสมาชิก
JBO ให้การติดตามมากที่สุด
การคำนวณคะแนนในตาราง ลำดับของ พรีเมียร์ลีก
ลำดับของ พรีเมียร์ลีก ถูกกำหนดโดยคะแนนที่ทีมได้รับจากการแข่งขันตลอดฤดูกาล ซึ่งทีมที่มีคะแนนรวมสูงที่สุดจะได้อันดับหนึ่งและครองแชมป์ ส่วนสามทีมที่มีคะแนนน้อยที่สุดจะต้องตกชั้นไปยัง แชมเปี้ยนชิพ (Championship) ซึ่งเป็นลีกระดับสองของอังกฤษ โดยระบบการคำนวณคะแนนมีดังนี้
ชนะ: 3 คะแนน
เสมอ: 1 คะแนน
แพ้: 0 คะแนน
ปัจจัยที่ส่งผลต่อ ลำดับของ พรีเมียร์ลีก
นอกจากผลการแข่งขันแล้ว ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่อาจส่งผลต่อ ลำดับของ พรีเมียร์ลีก เช่น ผลต่างประตูได้เสีย (Goal Difference) ที่จะถูกนำมาใช้เป็นตัวตัดสินเมื่อสองทีมมีคะแนนเท่ากัน ทีมที่มีผลต่างประตูได้เสียดีกว่าจะได้อันดับสูงกว่า นอกจากนี้ยังมีปัจจัยเสริมอื่น ๆ เช่น ความสามารถของนักเตะ สภาพความพร้อมของทีม และการจัดการทางยุทธศาสตร์ของผู้จัดการทีมที่มีผลต่อผลการแข่งขันและลำดับในตาราง
ลำดับของ พรีเมียร์ลีก เคลื่อนไหวบ่อยแค่ไหน แล้วต้องเช็คที่ไหน ยังไง
ลำดับของ พรีเมียร์ลีก มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาตามผลการแข่งขันในแต่ละสัปดาห์ ด้วยการแข่งขันที่มีความเข้มข้นสูง ทุกทีมต่างมุ่งมั่นเก็บคะแนนเพื่อนำทีมตัวเองขึ้นสู่ลำดับที่ดีกว่า ไม่ว่าจะเป็นการชิงตำแหน่งแชมป์หรือการหนีตกชั้น ทำให้ลำดับในตารางมีการเคลื่อนไหวอยู่เสมอ การเปลี่ยนแปลงอาจเกิดขึ้นหลังจบแต่ละเกมทันทีเมื่อคะแนนถูกอัปเดตเข้าสู่ระบบ
4 ช่องทางในการเช็คลำดับของพรีเมียร์ลีก
แฟนบอลสามารถตรวจสอบลำดับของ พรีเมียร์ลีก ได้ผ่านหลายช่องทาง และการติดตามลำดับของ พรีเมียร์ลีก อย่างสม่ำเสมอไม่เพียงแต่ช่วยให้แฟนบอลรู้ทันสถานการณ์ล่าสุดของทีมที่ตนเองชื่นชอบ แต่ยังเพิ่มความสนุกสนานและความตื่นเต้นในการชมการแข่งขันอีกด้วย โดยช่องทางหลักที่แฟนบอลส่วนใหญ่นิยมใช้ ได้แก่
เว็บไซต์พรีเมียร์ลีก : เว็บไซต์นี้อัปเดตข้อมูลตารางคะแนนและลำดับของทีมทุกวันหลังการแข่งขัน โดยคุณสามารถเข้าไปเช็คได้ที่ premierleague.com ซึ่งจะมีตารางคะแนนล่าสุดที่แสดงรายละเอียดครบถ้วน ทั้งคะแนน ผลต่างประตูได้เสีย และสถิติอื่น ๆ ที่สำคัญ
แอปพลิเคชันมือถือ : ปัจจุบันมีแอปพลิเคชันหลายตัวที่สามารถใช้ตรวจสอบลำดับของ พรีเมียร์ลีก ได้ เช่น Premier League Official App, SofaScore, ESPN, และ OneFootball ซึ่งจะมีการแจ้งเตือนเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงในตารางคะแนน
ถ่ายทอดสดการแข่งขัน : ในการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์หรือสตรีมมิ่งออนไลน์ บางครั้งจะมีการอัปเดตตารางคะแนนในระหว่างการแข่งขัน ทำให้แฟนบอลสามารถติดตามการเปลี่ยนแปลงของลำดับได้แบบเรียลไทม์
โซเชียลมีเดีย : เพจและบัญชีทวิตเตอร์ของสโมสรฟุตบอล พรีเมียร์ลีก หรือแม้แต่บัญชีของลีกเองมักจะมีการอัปเดตลำดับตารางคะแนนและผลการแข่งขันอย่างต่อเนื่อง
ท็อปโฟร์คืออะไร? ทำไมถึงเป็น ลำดับของ พรีเมียร์ลีก ที่ทีมไหนๆ ก็อยากติดโผ
การติดท็อปโฟร์ในลำดับของ พรีเมียร์ลีก ไม่เพียงแต่เป็นสัญลักษณ์ของความสำเร็จและความสามารถในการแข่งขันของทีมในลีกสูงสุดของอังกฤษ แต่ยังมีความหมายและความสำคัญในหลายด้านที่ทำให้ทุกสโมสรต่างต้องการที่จะอยู่ในตำแหน่งนี้
สิทธิ์แข่งยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก: ทีมที่ติดท็อปโฟร์ใน พรีเมียร์ลีก จะได้รับสิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขันยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ซึ่งเป็นทัวร์นาเมนต์ที่มีชื่อเสียงและทรงเกียรติที่สุดในยุโรป การได้เข้าร่วมแชมเปียนส์ลีกไม่เพียงแต่เสริมสร้างชื่อเสียงให้กับสโมสร แต่ยังเพิ่มรายได้จากค่าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดและเงินรางวัลอีกด้วย
การดึงดูดนักเตะระดับโลก: ทีมที่สามารถเข้าร่วมแชมเปียนส์ลีกได้มักจะเป็นที่ดึงดูดของนักเตะระดับโลก เนื่องจากพวกเขาต้องการเล่นในทัวร์นาเมนต์ที่มีการแข่งขันสูงสุด การติดท็อปโฟร์จึงช่วยให้สโมสรสามารถดึงดูดนักเตะที่มีคุณภาพสูงเข้ามาเสริมทัพ
ช่วยเพิ่มรายได้ให้กับสโมสร: การอยู่ในท็อปโฟร์ช่วยเพิ่มรายได้ให้กับสโมสรอย่างมหาศาล ทั้งจากการขายตั๋วเข้าชม การขายสินค้าของสโมสร และการสนับสนุนจากสปอนเซอร์ ซึ่งรายได้เหล่านี้สามารถนำมาใช้ในการพัฒนาทีมให้แข็งแกร่งขึ้นได้
ความกดดันและความท้าทาย: การรักษาตำแหน่งในท็อปโฟร์ตลอดฤดูกาลต้องเผชิญกับความกดดันอย่างมาก เนื่องจากทุกทีมต่างพยายามแข่งขันเพื่อแย่งชิงตำแหน่งนี้ การที่สโมสรสามารถรักษาตำแหน่งท็อปโฟร์ได้บ่งบอกถึงความแข็งแกร่งและความเสถียรของทีมในระยะยาว
ทีมดังที่ติดท็อปโฟร์ลำดับพรีเมียร์ลีกมากที่สุด
การติดท็อปโฟร์ใน พรีเมียร์ลีก เป็นสัญลักษณ์ของความสำเร็จและความสามารถในการแข่งขันในระดับสูงสุดของฟุตบอลอังกฤษ ทีมที่สามารถรักษาตำแหน่งในสี่อันดับแรกได้อย่างต่อเนื่อง มักเป็นทีมที่มีประวัติศาสตร์และศักยภาพที่แข็งแกร่งในทุกด้าน ทั้งการบริหารจัดการทีม, การเล่นของนักเตะ, และการวางแผนยุทธศาสตร์ในแต่ละฤดูกาล
ทีม
ท็อปโฟร์
แชมป์ลีก
แมนฯ ยู
มากกว่า 25 ครั้ง
13 สมัย
เชลซี
มากกว่า 20 ครั้ง
5 สมัย
อาร์เซนอล
20 สมัยติดต่อกัน
3 สมัย
ลิเวอร์พูล
มากกว่า 15 ครั้ง
1 สมัย
แมนฯ ซิตี้
มากกว่า 10 ครั้ง
7 สมัย
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นทีมที่มีความสำเร็จสูงสุดใน พรีเมียร์ลีก ไม่เพียงแต่เป็นทีมที่คว้าแชมป์ลีกมากที่สุด แต่ยังติดท็อปโฟร์อย่างต่อเนื่องในยุคของเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ตั้งแต่การก่อตั้ง พรีเมียร์ลีก ในฤดูกาล 1992-93 จนถึงปัจจุบัน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สามารถรักษาตำแหน่งท็อปโฟร์ได้มากกว่า 25 ครั้ง แสดงถึงความมั่นคงและความยิ่งใหญ่ของทีมในวงการฟุตบอลอังกฤษ
เชลซี
เชลซี เป็นอีกหนึ่งทีมที่มีความสำเร็จในการติดท็อปโฟร์มาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะหลังจากการเข้ามาของโรมัน อบราโมวิชในปี 2003 ที่ทำให้สโมสรมีการลงทุนอย่างมหาศาลทั้งในเรื่องนักเตะและการพัฒนาสโมสร เชลซีสามารถติดท็อปโฟร์ได้อย่างต่อเนื่องมากกว่า 20 ครั้ง และยังคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ได้หลายสมัยอีกด้วย
อาร์เซนอล
อาร์เซนอล ภายใต้การคุมทีมของอาร์แซน เวนเกอร์ เป็นทีมที่สามารถติดท็อปโฟร์ได้อย่างต่อเนื่องถึง 20 ฤดูกาลติดต่อกัน ตั้งแต่ฤดูกาล 1996-97 ถึง 2015-16 แม้ว่าในช่วงหลังทีมอาจจะไม่สามารถรักษามาตรฐานได้เหมือนเดิม แต่การติดท็อปโฟร์อย่างสม่ำเสมอในอดีตของพวกเขายังคงเป็นเรื่องราวที่น่าจดจำ
ลิเวอร์พูล
ลิเวอร์พูล เป็นทีมที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานและเคยคว้าแชมป์ลีกสูงสุดหลายครั้งก่อนการก่อตั้ง พรีเมียร์ลีก แม้ในช่วงแรกของ พรีเมียร์ลีก ลิเวอร์พูลอาจไม่ได้มีผลงานที่โดดเด่นมากนัก แต่ในช่วงหลังภายใต้การคุมทีมของเจอร์เก้น คล็อปป์ ลิเวอร์พูลกลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง โดยสามารถติดท็อปโฟร์ได้หลายครั้งและคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ในฤดูกาล 2019-20
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นทีมที่พัฒนาขึ้นมาอย่างมากในทศวรรษที่ผ่านมา ภายใต้การสนับสนุนทางการเงินจากเจ้าของทีม และการคุมทีมของผู้จัดการทีมระดับโลกอย่างเป๊ป กวาร์ดิโอลา แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สามารถติดท็อปโฟร์ได้อย่างต่อเนื่องในช่วงสิบปีที่ผ่านมา และคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ได้หลายสมัย